Location via proxy:   [ UP ]  
[Report a bug]   [Manage cookies]                
ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ใจกลาง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ใช้
ป้ายระบุ: แก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่
Jothefiredragon (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 19 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 9 คน)
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Kernel Layout.svg|thumb|แผนภาพโดยสังเขปแสดงการที่ใจกลางเชื่อมต่อ[[โปรแกรมประยุกต์]]กับฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์]]
{{ความหมายอื่น}}


'''ใจกลาง'''{{Efn|ตามระบบศัพท์บัญญัติ [[สำนักงานราชบัณฑิตยสภา]]<ref name="orst">{{Cite web|url=https://coined-word.orst.go.th/index.php |title=ศัพท์บัญญัติ ๔๐ สาขาวิชา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา|url-status=live}}</ref>}} หรือ '''เคอร์เนล''' ({{lang-en|kernel}}) เป็น[[โปรแกรมคอมพิวเตอร์]]ที่เป็นแกนกลางของ[[ระบบปฏิบัติการ]]ของคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปแล้ว ใจกลางจะสามารถควบคุมทุกอย่างในระบบได้อย่างสมบูรณ์ ใจกลางยังรับผิดชอบในการป้องกันและบรรเทาข้อขัดแย้งระหว่างกระบวนการต่างๆ อีกด้วย<ref name="Linfo">{{Cite web|title=Kernel|url=http://www.linfo.org/kernel.html|url-status=live|archive-url=https://web.archive.org/web/20061208185439/http://www.linfo.org/kernel.html|archive-date=8 December 2006|access-date=15 September 2016|website=Linfo|publisher=Bellevue Linux Users Group}}</ref> ใจกลางเป็นส่วนระบบปฏิบัติการที่จะคงอยู่ในหน่วยความจำเสมอ<ref>{{Cite book|last=Randal E. Bryant|title=Computer Systems: A Programmer's Perspective|last2=David R. O'Hallaron|date=2016|publisher=Pearson|isbn=978-0-13-409266-9|edition=Third|page=17}}</ref> และอำนวยความสะดวกในการโต้ตอบระหว่างส่วนประกอบ[[ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์|ฮาร์ดแวร์]]และ[[ซอฟต์แวร์]] ใจกลางแบบเต็มจะควบคุมทรัพยากรฮาร์ดแวร์ทั้งหมด (เช่น [[อินพุต/เอาต์พุต]] หน่วยความจำ การเข้ารหัส) ผ่าน[[โปรแกรมขับอุปกรณ์]] ไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งระหว่างกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรดังกล่าว และปรับการใช้ทรัพยากรทั่วไปให้เหมาะสม เช่น การใช้[[หน่วยประมวลผลกลาง]]กับ[[แคช]] ระบบไฟล์ และซ็อกเก็ตเครือข่าย ในระบบส่วนใหญ่ ใจกลางเป็นหนึ่งในโปรแกรมแรกๆ ที่โหลดเมื่อ [[การปลุกเครื่อง|เริ่มต้นระบบ]] (หลังจาก [[บูตโหลดเดอร์]]) โดยจะจัดการส่วนที่เหลือของการเริ่มต้นระบบ เช่นเดียวกับหน่วยความจำ [[อุปกรณ์ต่อพ่วง]] และคำขอ อินพุต/เอาท์พุต จากซอฟต์แวร์ โดยแปลเป็นคำสั่งใน[[การประมวลผล]] ข้อมูลสำหรับ [[หน่วยประมวลผลกลาง]]
[[ไฟล์:Kernel Layout.svg|thumb|เคอร์เนลเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์]]


โดยปกติรหัสสำคัญของใจกลางจะถูกโหลดลงในพื้นที่หน่วยความจำแยกต่างหาก ซึ่งได้รับการป้องกันจากการเข้าถึงโดย[[โปรแกรมประยุกต์]]หรือส่วนอื่นๆ ที่มีความสำคัญน้อยกว่าของระบบปฏิบัติการ ใจกลางดำเนินงานต่างๆ เช่น กระบวนการที่ทำงานอยู่ การจัดการอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น [[ฮาร์ดดิสก์]] และการจัดการการขัดจังหวะใน[[พื้นที่ผู้ใช้และพื้นที่เคอร์เนล|พื้นที่ใจกลาง]] ที่ได้รับการป้องกันนี้ ในทางตรงกันข้าม โปรแกรมประยุกต์ เช่น เบราว์เซอร์ โปรแกรมประมวลผลคำ หรือเครื่องเล่นเสียงหรือวิดีโอ จะใช้พื้นที่หน่วยความจำ [[พื้นที่ผู้ใช้และพื้นที่เคอร์เนล|พื้นที่ผู้ใช้]] แยกต่างหาก การแยกนี้ป้องกันไม่ให้ข้อมูลผู้ใช้และข้อมูลใจกลางรบกวนซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรหรือความช้า<ref name="Linfo" /> รวมถึงป้องกันไม่ให้โปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานผิดปกติส่งผลกระทบต่อโปรแกรมประยุกต์อื่นหรือทำให้ระบบปฏิบัติการเสียหายทั้งหมด แม้ในระบบที่ใจกลางรวมอยู่ใน[[พื้นที่ที่อยู่]]ของโปรแกรมประยุกต์ [[การป้องกันหน่วยความจำ]]ก็ยังถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมประยุกต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตแก้ไขใจกลาง
'''เคอร์เนล'''<ref>สะกด kernel ว่า เคอร์เนล ตาม[[ศัพท์บัญญัติ]]ของ[[ราชบัณฑิตยสถาน]]</ref> (kernel อ่านว่า '''เคอร์เนิล''' เนื่องจากตัว e ไม่ออกเสียง) หมายถึง ส่วนประกอบหลักของ[[ระบบปฏิบัติการ]] ซึ่งคอยดูแลบริหารทรัพยากรของระบบ และติดต่อกับ[[ฮาร์ดแวร์]]และ [[ซอฟต์แวร์]] เนื่องจากว่าเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ เคอร์เนล นั้นเป็นฐานล่างสุดในการติดต่อกับทรัพยากรต่างๆ เช่น [[หน่วยความจำ]] หน่วยประมวลผลกลาง และ อุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต


ใจกลางนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการรันโปรแกรม ใจกลางทำหน้าที่ตัดสินใจว่าควรมอบหมายโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ให้กับโปรเซสเซอร์ตัวใด
== ประเภทรูปแบบ เคอร์เนล ==


== หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม ==
[[ไฟล์:Kernel-monolithic.svg|thumb|289px|right|รูปภาพแสดงหลักการทำงานของโมโนลิทิก เคอร์เนล]]
[[แรม|หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม]] (RAM) ใช้เพื่อจัดเก็บทั้งคำสั่งโปรแกรมและข้อมูล{{Efn|ขึ้นอยู่กับ[[สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์]]}} โดยทั่วไปแล้ว ทั้งสองจะต้องมีอยู่ในหน่วยความจำเพื่อให้โปรแกรมดำเนินการได้ บ่อยครั้งที่หลายโปรแกรมต้องการเข้าถึงหน่วยความจำ โดยมักต้องการหน่วยความจำมากกว่าที่คอมพิวเตอร์มีอยู่ ใจกลางมีหน้าที่ในการตัดสินใจเลือกหน่วยความจำที่แต่ละกระบวนการสามารถใช้ได้ และกำหนดสิ่งที่ต้องทำเมื่อมีหน่วยความจำไม่เพียงพอ


== อุปกรณ์อินพุต/เอาท์พุต ==
=== โมโนลิทิก เคอร์เนล (Monolithic kernel) ===
ใจกลางเตรียมวิธีการที่สะดวกสำหรับโปรแกรมประยุกต์ในการใช้อุปกรณ์อินพุต/เอาท์พุต เช่น อุปกรณ์ต่อพ่วง (แป้นพิมพ์ เมาส์ ดิสก์ไดรฟ์ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์[[ยูเอสบี]] อะแดปเตอร์เครือข่าย [[อุปกรณ์แสดงผล]] และอื่นๆ) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วใจกลางจะแยกออกมา ทำให้โปรแกรมประยุกต์ต่างๆ จะไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียดการใช้งาน
โมโนลิทิก เคอร์เนลมีอยู่ใน:

* Linux kernel
== แนวทางการออกแบบใจกลาง ==
* [[MS-DOS]], Microsoft Windows 9x Series ([[Windows 95]] [[Windows 98]] เป็นต้น)
[[ไฟล์:Kernel-simple.svg|thumb|317x317px|แผนผังของใจกลางแบบโมโนลิทิก]]
* Agnix

=== ใจกลางแบบโมโนลิทิก (Monolithic kernel) ===

ในใจกลางแบบโมโนลิทิก บริการระบบปฏิบัติการทั้งหมดทำงานพร้อมกับเคอร์เนลเธรดหลัก ดังนั้นจึงอยู่ในพื้นที่หน่วยความจำเดียวกันด้วย แนวทางนี้ให้การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ผู้พัฒนา[[ยูนิกซ์]] [[เคน ทอมป์สัน]] ระบุว่า "ในความเห็น [ของเขา] ใจกลางแบบโมโนลิทิกนั้นนำไปใช้ได้ง่ายกว่า" <ref name="Linuxisobsoletedebate">{{Cite web|date=29 March 1999|title=Open Sources: Voices from the Open Source Revolution|url=https://www.oreilly.com/openbook/opensources/book/appa.html|url-status=live|archive-url=https://web.archive.org/web/20200201103745/https://www.oreilly.com/openbook/opensources/book/appa.html|archive-date=1 February 2020|access-date=24 March 2019|website=1-56592-582-3}}</ref> ข้อเสียเปรียบหลักของใจกลางแบบโมโนลิทิกคือการพึ่งพาระหว่างส่วนประกอบของระบบ{{Spaced en dash}}จุดบกพร่องในโปรแกรมขับอุปกรณ์อาจทำให้ระบบเสียหายทั้งหมด{{Spaced en dash}}และความจริงที่ว่าใจกลางแบบโมโนลิทิกนั้นยากต่อการดูแลรักษา ทอมป์สันยังระบุด้วยว่า "[ใจกลางแบบโมโนลิทิก]เนี่ย ถ้าไม่ระมัดระวังก็มีสิทธิจะเละตุ้มเป๊ะ"

ใจกลางแบบโมโนลิทิกสมัยใหม่ เช่น[[ใจกลางลินุกซ์]], ใจกลาง[[ฟรีบีเอสดี]], ใจกลาง[[ไอบีเอ็ม AIX]], ใจกลาง [[HP-UX]] และใจกลาง [[โซลาริส|Solaris]] ซึ่งทั้งหมดนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ของระบบปฏิบัติการ[[เหมือนยูนิกซ์]] รองรับ [[โมดูลเคอร์เนลที่โหลดได้|โมดูลใจกลางที่โหลดได้]] ทำให้โมดูลต่างๆ เพื่อโหลดลงในใจกลางขณะรันไทม์ ทำให้สามารถขยายขีดความสามารถของใจกลางได้ง่ายตามต้องการ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดปริมาณรหัสที่ทำงานในพื้นที่ใจกลางให้เหลือน้อยที่สุด


=== ไมโครเคอร์เนล (Microkernel) ===
=== ไมโครเคอร์เนล (Microkernel) ===
[[ไฟล์:Kernel-microkernel.svg|thumb|289px|right|รูปภาพแสดงหลักการทำงานของไมโครเคอร์เนล]]
[[ไฟล์:Kernel-microkernel.svg|thumb|289px|right|รูปภาพแสดงหลักการทำงานของไมโครเคอร์เนล]]

ไมโครเคอร์เนล เป็นเคอร์เนลที่แบ่งการทำงานในแต่ละภาคส่วนออกจากกัน ตัวอย่างเช่น แบ่งส่วนของซอฟต์แวร์ประยุกต์ ส่วนของอุปกรณ์ ส่วนจัดการไฟล์ ฯลฯ ในทางทฤษฎีไมโครเคอร์เนลมีความเสถียรสูงเนื่องจากแบ่งการทำงานทุกภาคส่วนออกจากกัน แต่มีข้อเสียคือเรียกประสิทธิภาพของระบบออกมาได้ไม่เต็มที่


ตัวอย่างของไมโครเคอร์เนล และ ระบบปฏิบัติการที่มีพื้นบน ไมโครเคอร์เนล:
ตัวอย่างของไมโครเคอร์เนล และ ระบบปฏิบัติการที่มีพื้นบน ไมโครเคอร์เนล:
บรรทัด 22: บรรทัด 31:
* AmigaOS
* AmigaOS
* Amoeba
* Amoeba
* Android OS
* Chorus microkernel
* Chorus microkernel
* EROS
* EROS
บรรทัด 43: บรรทัด 51:


=== เคอร์เนลแบบผสม (Hybrid kernel) ===
=== เคอร์เนลแบบผสม (Hybrid kernel) ===

เคอร์เนลแบบผสม เป็นเคอร์เนลที่รวมความสามารถของไมโครเคอร์เนลและโมโนลิทิกเคอร์เนลเข้าด้วยกันเพื่อเลียนแบบประสิทธิภาพและเสถียรภาพของโมโนลิทิกเคอร์เนลและไมโครเคอร์เนล

* [[BeOS]] kernel
* [[BeOS]] kernel
* [[DragonFly BSD]]
* [[DragonFly BSD]]
บรรทัด 51: บรรทัด 62:
* [[architecture of the Windows NT operating system line|NT kernel]] [[Windows NT kernel]] ([[Windows 2000]], [[Windows XP]], [[Windows 2003]], and [[Windows Vista]])
* [[architecture of the Windows NT operating system line|NT kernel]] [[Windows NT kernel]] ([[Windows 2000]], [[Windows XP]], [[Windows 2003]], and [[Windows Vista]])
* [[XNU]] kernel (ใช้ใน [[Mac OS X]])
* [[XNU]] kernel (ใช้ใน [[Mac OS X]])

== หมายเหตุ ==
{{Notelist}}


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
บรรทัด 60: บรรทัด 74:
* [[B.S. Chalk]], ''Computer Organisation and Architecture'', Macmillan P. (ISBN 0-333-64551-0).
* [[B.S. Chalk]], ''Computer Organisation and Architecture'', Macmillan P. (ISBN 0-333-64551-0).


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [https://saixiii.com/what-is-kernel/ Kernel คืออะไร] - แหล่งข้อมูลความรู้ภาษาไทย
[[หมวดหมู่:เทคโนโลยีระบบปฏิบัติการ]]
[[หมวดหมู่:เทคโนโลยีระบบปฏิบัติการ]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:26, 30 พฤศจิกายน 2566

แผนภาพโดยสังเขปแสดงการที่ใจกลางเชื่อมต่อโปรแกรมประยุกต์กับฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์

ใจกลาง[a] หรือ เคอร์เนล (อังกฤษ: kernel) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นแกนกลางของระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปแล้ว ใจกลางจะสามารถควบคุมทุกอย่างในระบบได้อย่างสมบูรณ์ ใจกลางยังรับผิดชอบในการป้องกันและบรรเทาข้อขัดแย้งระหว่างกระบวนการต่างๆ อีกด้วย[2] ใจกลางเป็นส่วนระบบปฏิบัติการที่จะคงอยู่ในหน่วยความจำเสมอ[3] และอำนวยความสะดวกในการโต้ตอบระหว่างส่วนประกอบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ใจกลางแบบเต็มจะควบคุมทรัพยากรฮาร์ดแวร์ทั้งหมด (เช่น อินพุต/เอาต์พุต หน่วยความจำ การเข้ารหัส) ผ่านโปรแกรมขับอุปกรณ์ ไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งระหว่างกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรดังกล่าว และปรับการใช้ทรัพยากรทั่วไปให้เหมาะสม เช่น การใช้หน่วยประมวลผลกลางกับแคช ระบบไฟล์ และซ็อกเก็ตเครือข่าย ในระบบส่วนใหญ่ ใจกลางเป็นหนึ่งในโปรแกรมแรกๆ ที่โหลดเมื่อ เริ่มต้นระบบ (หลังจาก บูตโหลดเดอร์) โดยจะจัดการส่วนที่เหลือของการเริ่มต้นระบบ เช่นเดียวกับหน่วยความจำ อุปกรณ์ต่อพ่วง และคำขอ อินพุต/เอาท์พุต จากซอฟต์แวร์ โดยแปลเป็นคำสั่งในการประมวลผล ข้อมูลสำหรับ หน่วยประมวลผลกลาง

โดยปกติรหัสสำคัญของใจกลางจะถูกโหลดลงในพื้นที่หน่วยความจำแยกต่างหาก ซึ่งได้รับการป้องกันจากการเข้าถึงโดยโปรแกรมประยุกต์หรือส่วนอื่นๆ ที่มีความสำคัญน้อยกว่าของระบบปฏิบัติการ ใจกลางดำเนินงานต่างๆ เช่น กระบวนการที่ทำงานอยู่ การจัดการอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ และการจัดการการขัดจังหวะในพื้นที่ใจกลาง ที่ได้รับการป้องกันนี้ ในทางตรงกันข้าม โปรแกรมประยุกต์ เช่น เบราว์เซอร์ โปรแกรมประมวลผลคำ หรือเครื่องเล่นเสียงหรือวิดีโอ จะใช้พื้นที่หน่วยความจำ พื้นที่ผู้ใช้ แยกต่างหาก การแยกนี้ป้องกันไม่ให้ข้อมูลผู้ใช้และข้อมูลใจกลางรบกวนซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรหรือความช้า[2] รวมถึงป้องกันไม่ให้โปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานผิดปกติส่งผลกระทบต่อโปรแกรมประยุกต์อื่นหรือทำให้ระบบปฏิบัติการเสียหายทั้งหมด แม้ในระบบที่ใจกลางรวมอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ของโปรแกรมประยุกต์ การป้องกันหน่วยความจำก็ยังถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมประยุกต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตแก้ไขใจกลาง

ใจกลางนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการรันโปรแกรม ใจกลางทำหน้าที่ตัดสินใจว่าควรมอบหมายโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ให้กับโปรเซสเซอร์ตัวใด

หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม

[แก้]

หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม (RAM) ใช้เพื่อจัดเก็บทั้งคำสั่งโปรแกรมและข้อมูล[b] โดยทั่วไปแล้ว ทั้งสองจะต้องมีอยู่ในหน่วยความจำเพื่อให้โปรแกรมดำเนินการได้ บ่อยครั้งที่หลายโปรแกรมต้องการเข้าถึงหน่วยความจำ โดยมักต้องการหน่วยความจำมากกว่าที่คอมพิวเตอร์มีอยู่ ใจกลางมีหน้าที่ในการตัดสินใจเลือกหน่วยความจำที่แต่ละกระบวนการสามารถใช้ได้ และกำหนดสิ่งที่ต้องทำเมื่อมีหน่วยความจำไม่เพียงพอ

อุปกรณ์อินพุต/เอาท์พุต

[แก้]

ใจกลางเตรียมวิธีการที่สะดวกสำหรับโปรแกรมประยุกต์ในการใช้อุปกรณ์อินพุต/เอาท์พุต เช่น อุปกรณ์ต่อพ่วง (แป้นพิมพ์ เมาส์ ดิสก์ไดรฟ์ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์ยูเอสบี อะแดปเตอร์เครือข่าย อุปกรณ์แสดงผล และอื่นๆ) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วใจกลางจะแยกออกมา ทำให้โปรแกรมประยุกต์ต่างๆ จะไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียดการใช้งาน

แนวทางการออกแบบใจกลาง

[แก้]
แผนผังของใจกลางแบบโมโนลิทิก

ใจกลางแบบโมโนลิทิก (Monolithic kernel)

[แก้]

ในใจกลางแบบโมโนลิทิก บริการระบบปฏิบัติการทั้งหมดทำงานพร้อมกับเคอร์เนลเธรดหลัก ดังนั้นจึงอยู่ในพื้นที่หน่วยความจำเดียวกันด้วย แนวทางนี้ให้การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ผู้พัฒนายูนิกซ์ เคน ทอมป์สัน ระบุว่า "ในความเห็น [ของเขา] ใจกลางแบบโมโนลิทิกนั้นนำไปใช้ได้ง่ายกว่า" [4] ข้อเสียเปรียบหลักของใจกลางแบบโมโนลิทิกคือการพึ่งพาระหว่างส่วนประกอบของระบบ – จุดบกพร่องในโปรแกรมขับอุปกรณ์อาจทำให้ระบบเสียหายทั้งหมด – และความจริงที่ว่าใจกลางแบบโมโนลิทิกนั้นยากต่อการดูแลรักษา ทอมป์สันยังระบุด้วยว่า "[ใจกลางแบบโมโนลิทิก]เนี่ย ถ้าไม่ระมัดระวังก็มีสิทธิจะเละตุ้มเป๊ะ"

ใจกลางแบบโมโนลิทิกสมัยใหม่ เช่นใจกลางลินุกซ์, ใจกลางฟรีบีเอสดี, ใจกลางไอบีเอ็ม AIX, ใจกลาง HP-UX และใจกลาง Solaris ซึ่งทั้งหมดนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ของระบบปฏิบัติการเหมือนยูนิกซ์ รองรับ โมดูลใจกลางที่โหลดได้ ทำให้โมดูลต่างๆ เพื่อโหลดลงในใจกลางขณะรันไทม์ ทำให้สามารถขยายขีดความสามารถของใจกลางได้ง่ายตามต้องการ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดปริมาณรหัสที่ทำงานในพื้นที่ใจกลางให้เหลือน้อยที่สุด

ไมโครเคอร์เนล (Microkernel)

[แก้]
รูปภาพแสดงหลักการทำงานของไมโครเคอร์เนล

ไมโครเคอร์เนล เป็นเคอร์เนลที่แบ่งการทำงานในแต่ละภาคส่วนออกจากกัน ตัวอย่างเช่น แบ่งส่วนของซอฟต์แวร์ประยุกต์ ส่วนของอุปกรณ์ ส่วนจัดการไฟล์ ฯลฯ ในทางทฤษฎีไมโครเคอร์เนลมีความเสถียรสูงเนื่องจากแบ่งการทำงานทุกภาคส่วนออกจากกัน แต่มีข้อเสียคือเรียกประสิทธิภาพของระบบออกมาได้ไม่เต็มที่

ตัวอย่างของไมโครเคอร์เนล และ ระบบปฏิบัติการที่มีพื้นบน ไมโครเคอร์เนล:

  • AIX
  • AmigaOS
  • Amoeba
  • Chorus microkernel
  • EROS
  • Haiku
  • K42
  • LSE/OS
  • KeyKOS
  • The L4 microkernel family
  • Mach, used in GNU Hurd, NEXTSTEP, OPENSTEP, and Mac OS X
  • MERT
  • Minix
  • MorphOS
  • NewOS
  • QNX
  • Phoenix-RTOS
  • RadiOS
  • Spring operating system
  • VSTa
  • Symbian OS

เคอร์เนลแบบผสม (Hybrid kernel)

[แก้]

เคอร์เนลแบบผสม เป็นเคอร์เนลที่รวมความสามารถของไมโครเคอร์เนลและโมโนลิทิกเคอร์เนลเข้าด้วยกันเพื่อเลียนแบบประสิทธิภาพและเสถียรภาพของโมโนลิทิกเคอร์เนลและไมโครเคอร์เนล

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ตามระบบศัพท์บัญญัติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา[1]
  2. ขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์

อ้างอิง

[แก้]
  1. "ศัพท์บัญญัติ ๔๐ สาขาวิชา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา".{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. 2.0 2.1 "Kernel". Linfo. Bellevue Linux Users Group. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2006. สืบค้นเมื่อ 15 September 2016.
  3. Randal E. Bryant; David R. O'Hallaron (2016). Computer Systems: A Programmer's Perspective (Third ed.). Pearson. p. 17. ISBN 978-0-13-409266-9.
  4. "Open Sources: Voices from the Open Source Revolution". 1-56592-582-3. 29 March 1999. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 March 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]