Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus aureus
IJPS
Suphim B. et al.
Vol. 12 No. 2 April – June 2016
_______________________________________________________________________________________________
Original Article
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชวี นะตอการยับยั้ง
เชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดอื้ ยาเมธิซิลลิน
บุญเลี้ยง สุพมิ พ1*, ปยะพงษ ชุมศรี1, อรทัย ปานเพชร1
1
สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร ภาควิชาวิทยาศาสตรประยุกต คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
ติดตอผูนิพนธ : สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร ภาควิชาวิทยาศาสตรประยุกต คณะวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
อําเภอเมือง จังหวัดเลย 42000 โทร 086-8657541 โทรสาร 042-835238 e-mail: bunliang_sp@yahoo.com
บทคัดยอ
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะตอการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดื้อยาเมธิซลิ ลิน
บุญเลี้ยง สุพมิ พ1*, ปยะพงษ ชุมศรี1, อรทัย ปานเพชร1
ว. เภสัชศาสตรอสี าน 2559; 12(2) : 57-67
รับบทความ : 13 ตุลาคม 2558
ตอบรับ : 8 สิงหาคม 2559
สารสกัดจากเหงากระชายดํามีฤทธิ์ในการยับยั้งจุลินทรียไดหลายชนิด เชน เชื้อรา เชื้อยีสต และเชื้อแบคทีเรีย การศึกษานี้มี
วัตถุ ป ระสงค เพื่ อ ศึ ก ษาผลของสารสกั ด เฮกเซนของกระชายดํ า และยาปฏิชี ว นะในการยั บยั้ งการเจริ ญ ของเชื้ อ methicillin-resistant
Staphylococcus aureus (MRSA) วัสดุและวิธีการทดลอง: ศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ MRSA ของสารสกัดเฮกเซนและยาปฏิชีวนะดวยวิธี
agar dilution และ ศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ MRSA เมื่อใชสารสกัดเฮกเซนรวมกับยาปฎิชีวนะดวยวิธี checkerboard dilution โดยทําการ
ทดลองในเชื้อ MRSA จํานวน 20 ไอโซเลท และวิเคราะหขอมูลโดยวิธีหาความถี่ และคํานวณคา minimum inhibitory concentration
(MIC) และ คา Fractional inhibitory concentration index (FICI) ผลการศึกษาวิจัย: สารสกัดเฮกเซนสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ
MRSA 10 ไอโซเลท ซึ่งมีคา MIC อยูระหวาง 1000 – 2000 μg/ml ในขณะที่ยาเพนิซิลลินมีคา MIC อยูระหวาง 0.125 – >256 μg/ml
การศึกษาสรุปไดวาเชื้อทุกไอโซเลทดื้อตอยาเพนิซิลลิน สวนยาแวนโคมัยซิน มีคา MIC อยูระหวาง 0.25 – 2 μg/ml สรุปไดวาเชื้อสวน
ใหญไวตอยาแวนโคมัยซิน ยกเวนเพียง 1 ไอโซเลท (MRSA 5 - 333) ที่ดื้อมีคา MIC เทากับ 4 μg/ml การศึกษาฤทธิ์รวมกันของสารสกัด
เฮกเซนกับยาแวนโคมัยซินตอการยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA พบวา ใหผลยับยั้ง MRSA แบบเสริมฤทธิ์กัน จํานวน 4 ไอโซเลท (คา
FICI = 0.5) และไมมผี ลตอฤทธิ์ของยาแวนโคมัยซิน ในเชื้อ 6 ไอโซเลท (คา FICI = 1) สวนการศึกษาฤทธิ์รวมกันของสารสกัดเฮกเซน
กับยาเพนิซิลลิน พบวา ใหผลยับยั้ง MRSA แบบเสริมฤทธิ์กันทุกไอโซเลท (คา FICI ≤ 0.5) สรุปผลการวิจัย: สารสกัดเฮกเซนของ
กระชายดําสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA และเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะในการยับยั้งเชื้อ MRSA ได ดังนั้นผลการศึกษานี้
สามารถนําไปสูการพัฒนากลยุทธในการนําสารจากธรรมชาติมาใชรวมกันกับยาปฏิชีวนะสมัยใหมเพื่อเพิ่มฤทธิ์ในการรักษาโรคติดเชื้อ
MRSA ตอไป
คําสําคัญ: สารสกัดเฮกเซน, กระชายดํา, Staphylococcus aureus สายพันธุดื้อตอยาเมธิซิลลิน, ยาปฏิชีวนะ
57
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชวี นะตอการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดอื้ ยาเมธิซลิ ลิน
ว. เภสัชศาสตรอสี าน
ปที่ 12 ฉบับที่ 2 เม.ย. – มิ.ย. 2559
บุญเลี้ยง สุพิมพ และคณะ
_______________________________________________________________________________________________
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against
methicillin-resistant Staphylococcus aureus
Bunliang Suphim1*, Piyapong Choomseer1, Orathai Panpetch1
1
Lecturer, Department of Public Health, Loei Rajabhat University, Muang District, Loei, 42000 Thailand
* Corresponding author: Tel: 086-8657541 Fax: 042-835238 e-mail: bunliang_sp@yahoo.com
Abstract
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus
aureus
Bunliang Suphim1*, Piyapong Choomseer1, Orathai Panpetch1
IJPS, 2016; 12(2) : 57-67
Received : 13 October 2015
Accepted : 8 August 2016
The extracts from rhizome of Kaempferia parviflora have been found to possess antimicrobial activities such as
antifungal and antibacterial activities. The study was aimed to investigate the antibacterial activity of the hexane extract and
antibiotics against various methicillin-resistant Staphylococcus aureus (MRSA) strains. Materials and Methods: The
antibacterial activity of hexane extract and antibiotics were assessed by agar dilution method. The combinations of hexane
extract with antibiotics (penicillin and vancomycin) were assessed for antibacterial effect by checkerboard dilution method in 20
isolates of MRSA. The data were analyzed for minimum inhibitory concentration (MIC) and fractional inhibitory concentration
index (FICI). Results: Our results showed that hexane extract inhibited 10 isolates of MRSA with MICs of 1,000 – 2,000
μg/ml. The MICs of penicillin against 20 isolates of MRSA ranged from 0.125 – >256 μg/ml, suggesting that all of isolates are
resistant to penicillin. The MICs of vancomycin against 19 isolates of MRSA ranged from 0.25 – 2 μg/ml, indicating that most
of the isolates are sensitive to vancomycin, except one isolate showing resistance to vancomycin (MRSA 5-333) with MIC of 4
μg/ml. The combinations of hexane extract with vancomycin showed synergistic effect against MRSA 4 isolates (FICI = 0.5)
and no effect on 6 isolates of (FICI = 1). The combinations of hexane extract with penicillin showed synergistic effect to all
MRSA isolates (FICI ≤ 0.5). Conclusion: Hexane extract of K. parviflora enhanced the activity of antibiotics against MRSA.
The study provides a strategy in utilizing compounds from natural source in combination with modern antibiotic agents to
enhance antibacterial activity in the treatment of MRSA infection.
Keywords: hexane extract, Kaempferia parviflora, methicillin-resistant S. aureus, antibiotic agents
58
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus aureus
IJPS
Suphim B. et al.
Vol. 12 No. 2 April – June 2016
_______________________________________________________________________________________________
บทนํา
กระชายดํา (Kaempferia parviflora) เปนพื ชวงศ
Zingiberaceae ซึ่งเปนยาสมุนไพรในการรักษาอาการเจ็บปวย
ตางๆ (Sawasdee et al., 2009) มีรายงานวาสารสกัดจาก
กระชายดํามีฤทธิ์ตานการอักเสบ (Panthong et al., 1989; Saewong et al., 2009), ฤทธิ์ตานจุลชีพ (Kummee et al., 2008;
Yenjai et al., 2004; Yenjai et al., 2007) รักษาแผลและยับยั้ง
การหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร (Rujjanawate et al., 2005),
ฤทธิ์ตานการแพ (Tewtrakul and Subhadhirasakul, 2007;
Tewtrakul et al., 2008), ฤทธิ์ตานอนุมูลอิสระ (Kusirisin et al.,
2009) เปนตน ไดมีการศึกษาคุณสมบัติของสารสกัดกระชายดํา
ในการยับยั้ งเชื้อจุลินทรี ย พบวาสารสกั ดกระชายดํ า สามารถ
ยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรียไดหลายชนิด เชน สารสกัดเอ
ทานอลของกระชายดํ า สามารถยั บ ยั้ ง การเจริ ญ ของเชื้ อ รา
Trichophyton rubrum, Trichophyton mentagrophytes and
Microsporum gypseum โดยใหคา minimum inhibitory
concentration (MIC) เทากับ 62.5, 125 and 250 mg/ml
ตามลําดับ (Kummee et al., 2008) สารสําคัญที่พบในสารสกัด
ด ว ยไดคลอโรมี เ ทนของกระชายดํ า ได แ ก สาร 5,7,4trimethoxyflavone และ 5,7,3,4-tetramethoxyflavone พบวา
สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ Plasmodium falciparum ซึ่ง
เปนสาเหตุของโรคมาลาเรีย โดยใหคา IC50 เทากับ 3.7 และ 4.1
μg/ml เมื่อเทียบกับยามาตรฐานคลอโรควิน สวนสาร 3,5,7,4tetramethoxyflavone และ 5,7,4-trimethoxyflavone สามารถ
ยับยั้ง Candida albicans โดยใหคา IC50 เทากับ 39.71 และ
17.63 μg/mL เมื่อเทียบกับยามาตรฐาน แอมโฟเทอริซิน บี และ
นอกจากนี้สารทั้งสองชนิดยังสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ
Mycobacterium ซึ่งใหคา MIC เทากับ 200 และ 50 μg/mL
ตามลําดับ (Yenjai, 2004; Yenjai, 2007) ดังนั้น ในการศึกษา
ครั้งนี้ จึงเนนไปที่ผลของสารสกัดกระชายดําในการยับยั้งการ
เจริญของเชื้อ S. aureus สายพันธุดื้อยาเมธิซิลลิน และฤทธิ์
รวมกันของสารสกัดกระชายดําและยาปฏิชีวนะในการยับยั้งการ
เจริญของเชื้อ S. aureus สายพันธุดื้อยาเมธิซลิ ลิน
Staphylococcus aureus เปนแบคทีเรียแกรมบวกที่
อยูใน family Micrococcaceae ซึ่งเปนเชื้อที่สามารถกอโรคได
ทั้งในคนและสั ตว เชื้ อนี้ เปนสาเหตุ ของโรคติดเชื้อบนผิ วหนั ง
กระดูก และกระแสเลือด ไดแก รูขุมขนอักเสบ ฝ หนอง การติด
เชื้อหลังการผ าตั ด กลามเนื้อหัวใจอักเสบ สมองอักเสบ ปอด
บวม (Schito, 2006) นอกจากนี้เชื้อยังสามารถสรางสารพิษ ที่
เปนสาเหตุทําใหเกิดโรคอาหารเปนพิษอยางเฉียบพลัน (Plata
et al., 2009) โดยจะตรวจพบ S. aureus ไดจากการติดเชื้อใน
โรงพยาบาล (nosocomial infections) และในชุมชนทั่วไป
ปจจุบันเชื้อ S. aureus มีอุบัติการณการดื้อยาเพิ่มมากขึ้น โดย
ตรวจพบ S. aureus สายพันธุที่มีการดื้อยาครั้งแรกเมื่อป พ.ศ.
2548 จากการตรวจแผล ติดเชื้อไฟไหมจากผูปวยในประเทศ
อังกฤษโดยพบวาเชื้อดื้อยาซัลโฟนาไมด (sulphonamide) ได
และเมื่อเปลี่ยนไปใชยาในกลุม beta-lactam ไดแก เพนนิซิลลิน
ต อ มาใน ป พ.ศ. 2489 ได ต รวจพบว า เชื้ อ สามารถดื้ อ ยา
เพนนิซิลลินไดรอยละ 6 จากในโรงพยาบาลของประเทศอังกฤษ
และเพิ่มขึ้นเปนรอยละ 50 ในป พ.ศ. 2491 (Barber
and
Rozwadowska-Dowzenko, 1948) กรมวิทยาศาสตรการแพทย
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย ไดรวบรวมเชื้อตามแบบแผน
ความไวของเชื้อแบคทีเรียจากโรงพยาบาลศูนยและโรงพยาบาล
ทั่วไป จํานวนมากกวา 30 แหง ตั้งแตป พ.ศ. 2543 – 2548 ได
พบเชื้อ methicillin-resistant S. aureus (MRSA) มีความชุก
รอยละ 35 ในป พ.ศ. 2543 และความชุกคอนขางคงที่ในระหวาง
รอยละ 30 – 35 ในชวง 5 ป (Aswapokee, 2008; Ziglam and
Nathwani, 2003) จากปญหาการดื้อยาเพนนิซิลลินที่เพิ่มขึ้น
อย างตอเนื่ อ งได พัฒ นายาปฏิ ชีว นะใหม ห ลายชนิดคือ เตตรา
ซั ย คลิ น (tetracycline) อิ ริ โ ทรมั ย ซิ น (erythromycin) คลอ
แ ร ม เ ฟ นิ ค อ ล ( chloramphenicol) แ ล ะ ส เ ต ร ป โ ต มั ย ซิ น
(streptomycin) โดยในระยะแรกยาใหมเหลานี้สามารถใชรักษา
อาการติดเชื้ออยางไดผล แตตอมาพบวาเชื้อเกิดการดื้อยาอยาง
รวดเร็ว นอกจากนี้ไดมีรายงานการกลายพันธุจาก MRSA เปน
สายพันธุใหม คือ vancomycin intermediate S. aureus (VISA)
และ vancomycin resistant S. aureus (VRSA) เปนสายพันธุที่
ดื้อยาแวนโคมัยซิน ซึ่งแวนโคมัยซินเปน ยาปฏิชีวนะที่ใชในการ
รักษาการติดเชื้อ MRSA ที่มีความรุนแรงและยาปฏิชีวนะอื่นๆ
ใชรักษาไมไดผล ดังนั้น MRSA, VISA และ VRSA จึงเปน
ปญหาโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลที่มีความสําคัญ (Siriwong and
Chukeatirote, 2009)
59
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชวี นะตอการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดอื้ ยาเมธิซลิ ลิน
ว. เภสัชศาสตรอสี าน
ปที่ 12 ฉบับที่ 2 เม.ย. – มิ.ย. 2559
บุญเลี้ยง สุพิมพ และคณะ
_______________________________________________________________________________________________
วิธีดาํ เนินการวิจัย
เดิมเสมอ ผูวิจัย จึงใชวิธีการนี้ในการควบคุมการสกัดสารสกัด
กระชายดําดวยเฮกเซน
สารเคมี
Nutrient agar (NM018, India) Mueller Hinton broth
และ Mueller Hinton agar (Himedia, India) ยาปฏิชีวนะ
ทั้ ง หมดได จ าก ภาควิ ช าเภสั ช วิ ท ยา คณะแพทยศาสตร
โรงพยาบาลศรีนครินทร มหาวิทยาลัยขอนแกน
เชื้อที่ใชทดสอบ
เ ชื้ อ ที่ ใ ช ใ น ก า ร วิ จั ย คื อ methicillin-resistant
Staphylococcus aureus (MRSA) จํานวน 20 ไอโซเลท โดย
ได รั บ ความอนุ เ คราะห เ ชื้ อ จาก หน ว ยจุ ล ชี ว วิ ท ยาคลิ นิ ก
โ ร ง พ ย า บ า ล ศ รี น ค ริ น ท ร ค ณ ะ แ พ ท ย ศ า ส ต ร
มหาวิทยาลัยขอนแกน
สมุนไพร
ใช เ หง า กระชายดํ า ที่ มี สี ม ว งเข ม อายุ 8 – 9 เดื อ น
เ ก็ บ เ กี่ ย ว ใ น ช ว ง เ ดื อ น ธั น ว า ค ม ถึ ง ม ก ร า ค ม จ า ก
อําเภอดานซาย จังหวัดเลย
วิธีเตรียมเชื้อสําหรับการทดลอง
ในการทดลองใชเชื้อประมาณ 1x108 CFU/ml (0.5
McFarland) โดยเตรียมเชื้อตามวิธี direct colony suspension
(Medical Technology Laboratory, 2008) มีวิธีการดังนี้ เพาะ
เชื้อ MRSA บนอาหารเลี้ยงเชื้อ Nutrient agar นําไปบมที่
อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เปนเวลา 18 – 24 ชั่วโมง เขี่ยเชื้อ
MRSA 4 – 5 โคโลนี ลงใน sterile 0.85% normal saline เขยา
ใ ห เ ชื้ อ ก ร ะ จ า ย ตั ว วั ด ค ว า ม ขุ น ข อ ง เ ชื้ อ ด ว ย เ ค รื่ อ ง
spectrophotometer ที่ความยาวคลื่น 625 นาโนเมตร ใหมคี วาม
ขุนเทากับ 0.5 McFarland standards (1x108 CFU/ml) ถา
ความขุนของเชื้อไมเทากับ 0.5 McFarland standards ใหเจือ
จางเชื้อโดยใช sterile 0.85% normal saline
การเตรียมสารสกัดจากกระชายดํา
นําเหงากระชายดําสด ลางใหสะอาด หั่นเปนแวน อบ
ใหแหงที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส เปนเวลา 24 ชั่วโมง บดให
ละเอียด จากนั้นชั่งกระชายดําแหงที่บดละเอียด 1.63 กิโลกรัม
แชในเฮกเซน ปริมาตร 8 ลิตร ตั้งทิ้งไวที่อุณหภูมิหอง เปน
ระยะเวลา 7 วัน แลวกรองเอากากออกดวยกระดาษกรอง นํา
สวนใสเก็บไว สวนกากที่เหลือนําไปแชในเฮกเซน 8 ลิตรอีกเปน
ระยะเวลา 7 วัน แลวกรองเอากากออกดวยกระดาษกรอง นํา
สวนใสที่ไดครั้ง 2 รวมกับครั้งที่ 1 แลวนําไประเหยดวยเครื่อง
กลั่นระเหยสารแบบหมุน (Rotary Evaporator (BUCHI
Rotavapor R – 124)) ที่อุณหภูมิ 69 องศาเซลเซียส สําหรับ
ระเหยตัวทําละลายเฮกเซนออกใหสารแหงเก็บสารใสขวด แกวสี
ชาป ด สนิ ท ป ด ฉลากชื่ อ สมุ น ไพร วั น ที่ เ ตรี ย ม เก็ บ ในตู เ ย็ น
อุณหภูมิไมตา่ํ กวา 4 องศาเซลเซียส วิธีการสกัดนี้ไดปรับปรุงมา
จาก Dowrote (Dowrote, 2010)
การทดสอบความไวของเชื้อตอยาปฏิชีวนะ ไดแก เพนิซิล
ลิน และ แวนมัยซิน โดยวิธี agar dilution (Hausler et al.,
1991)
โดยการเตรียม Mueller-Hinton agar (MHA) ผสมยา
ปฏิชีวนะเพนิซิลลิน หรือแวนโคมัยซิน โดยเจือจางใหไดความ
เขมขนสุดทายของยา เพนิซิลลิน เทากับ 256, 128, 64, 32, 16,
8, 4, 2, 1, 0.5, 0.25, และ 0.125 μg/ml และ แวนโคมัยซิน
เทากับ 256, 128, 64, 32, 16, 8, 4, 2, 1, 0.5, 0.25, และ
0.125 μg/ml ตามวิธีของ (Clinical and Laboratory Standards
Institute, 2009) และเตรียม Control plate ซึ่งไดแก MHA ที่ไม
ผสมยาปฏิชีวนะ จากนั้นเพาะ เชื้อทดสอบแบบจุด (1x108
CFU/ml) ปริมาตร 10 μl (Thathaisong and Sangnual, 2011)
จํานวน 5 จุดตอจานเพาะเชื้อ ลงบนอาหารเลี้ยงเชื้อที่เตรียมไว
นําจานอาหารทั้งหมดไปบมที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เปน
เวลา 18 – 24 ชั่วโมง อานผลความเขมขนที่ต่ําที่สุด (MIC) ของ
ยาที่สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อได (ทําการทดสอบ 3 ซ้ํา)
การควบคุมคุณภาพของสารสกัด
เพื่อควบคุมคุณภาพของสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวย
ตัวทําละลายเฮกเซนวามีองคประกอบของสารออกฤทธิ์ในกลุม
เดียวกันเสมอ จึงไดตรวจสอบคุณภาพของสารสกัดโดยชั่งสาร
สกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซน 0.2 กรัม ละลายดวยตัวทํา
ละลายเฮกเซน 3 มิลลิลิตร คนสารละลายใหเขากันจนใสเปนเนื้อ
เดี ย วกั น แล ว นํ า ไปเข า เครื่ อ ง UV-VIS
Recording
Spectrophotometer (SHIMADZU UV-1604) วัดคาการดูดกลืน
แสงที่ชวงความยาวคลื่น 200 – 800 นาโนเมตร (Chattiranan
et al., 2013; Indranupakorn, 2004) วิธีการนี้เปนการยืนยันวา
ในการสกัดสารสกัดจากกระชายดําดวยเฮกเซน จะไดสารกลุม
60
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus aureus
IJPS
Suphim B. et al.
Vol. 12 No. 2 April – June 2016
_______________________________________________________________________________________________
การทดสอบความไวของเชื้อตอสารสกัดกระชายดํา โดยวิธี
agar dilution (Hausler et al., 1991)
โดยการเตรียม MHA ที่ผสมสารสกัดกระชายดําที่สกัด
ดวยเฮกเซน ความเขมขนสุดทายเทากับ 2,000, 1,000, 500,
250, 125, 62.5, 31.25, และ 15.62 μg/ml (Kummee, 2008)
และเตรียม Control plate ซึ่งประกอบดวย Positive control
plate (MHA ผสมเฮกเซน) และ Negative control plate (MHA
ที่ไมผสมสารสกัดกระชายดํา) จากนั้นเพาะเชื้อทดสอบแบบจุด
(1x108 CFU/ml) ปริมาตร 10 μl (Thathaisong and Sangnual,
2011) จํานวน 5 จุดตอจานเพาะเชื้อ ลงบนอาหารเลี้ยงเชื้อที่
เตรี ย มไว นํ า จานอาหารทั้ ง หมดไปบ ม ที่ อุ ณ หภู มิ 37 องศา
เซลเซียส เปนเวลา 18 – 24 ชั่วโมง อานผลความเขมขนที่ต่ํา
ที่สุด (MIC) ของสารสกัดกระชายดํา ที่สามารถยับยั้งการเจริญ
ของเชื้อได (ทําการทดสอบ 3 ซ้ํา)
FICI A
คือ คาดัชนีสดั สวนความเขมขนของ
สาร A ในการยับยั้งเชื้อ
FICI B
คือ คาดัชนีสดั สวนความเขมขนของ
สาร B ในการยับยั้งเชื้อ
[A]
คือ คา MIC ของสาร A ในสารผสม
ระหวางสาร A และสาร B
[B]
คือ คา MIC ของสาร B ในสารผสม
ระหวางสาร A และสาร B
MIC (A)
คือ คา MIC ของสาร A
MIC (B)
คือ คา MIC ของสาร B
การแปลผล
FICI ≤ 0.5 = เสริมฤทธิ์กัน (synergism), 0.5 < FICI
≤ 4.0 = ฤทธิ์ไมแตกตางจากการใชสารตัวเดียว (indifference),
FICI > 4.0 = ฤทธิ์ตา นกัน (antagonism) (Lorian, 2005)
การทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดกระชายดํารวมกับ
ยาปฏิชีวนะโดยวิธี Checkerboard dilution (Climo et al.,
1999; Spoorthi et al., 2011)
เจือจางความเขมขนของยาปฏิชีวนะเพนิซิลลิน หรือ
แวนโคมัยซิน ใหมีความเขมขนต่ํากวาคา MIC 8 เทา และ ป
เปตยาปฏิชีวนะปริมาตร 100 μl ลงในหลอดทดลองที่มีอาหาร
เลี้ยงเชื้อ MHB 1.7 มิลลิลิตร แลวเติมสารสกัดกระชายดําที่สกัด
ดวยเฮกเซนที่มีความเขมขนต่ํากวาคา MIC 8 เทา ความเขมขน
ละ 100 μl จากนั้นเติมเชื้อทดสอบ 100 μl ปริมาตรรวมทั้งหมด
เทากับ 2 มิลลิลิตร นําไปบมที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เปน
เวลา (1x108 CFU/ml) 18 – 24 ชั่วโมง อานผลความเขมขนที่
ต่าํ ที่สุด (MIC) ของยาและสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซน
ที่สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA ได และประเมิน
ประสิทธิภาพของสารสกัดในการเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะ ดวย
ดัชนีชี้วดั คือ fractional inhibitory concentration index (FICI)
ผลการศึกษาวิจัย
1. คา MIC ของสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซนตอ
การยับยั้งเชื้อ MRSA
การศึก ษาฤทธิ์ ข องสารสกั ด หยาบกระชายดํ า ที่ ส กั ด
ดวยตัวทําละลายเฮกเซน ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA
จํานวน 20 ไอโซเลท โดยวิธี agar dilution ใชสารสกัดหยาบ
กระชายดํา ที่มีความเขมขน ตั้งแต 15.62 – 2,000 μg/ml
ผลการวิจัยพบวา สารสกัดหยาบกระชายดํา สามารถยับยั้งการ
เจริญของเชื้อ MRSA ได 10 ไอโซเลท ไดแก ไอโซเลท 5-456,
5-183, 5-163, 5-184, 5-254, 5-30, 5-490, 5-85, 5-104 และ
5-272 โดยใหคา MIC ระหวาง 1,000 – 2,000 μg/ml (ตารางที่
1)
การวิเคราะหขอมูล
วิเคราะหขอมูลโดยใชสถิติเชิงพรรณนา ไดแก จํานวน
และนําคามาคํานวณหาคา MIC และประเมินประสิทธิภาพการ
เสริมฤทธิ์ของสารสกัดกระชายดําดวยเฮกเซนและยาปฏิชีวนะ
ดวยดัชนีชี้วัดที่เรียกวา fractional inhibitory concentration
index (FICI) ดังสูตร
FICI =
FICI A + FICI B
=
[A]/MIC (A) + [B]/MIC (B)
61
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชวี นะตอการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดอื้ ยาเมธิซลิ ลิน
ว. เภสัชศาสตรอสี าน
ปที่ 12 ฉบับที่ 2 เม.ย. – มิ.ย. 2559
บุญเลี้ยง สุพิมพ และคณะ
_______________________________________________________________________________________________
ตารางที่ 1 คา MIC ของสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซนและยาปฏิชีวนะตอการยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA
MIC (g/ml)
Penicillin*
0.25
16
16
0.25
0.25
0.25
>256
4
0.25
0.25
>256
0.25
0.25
>256
>256
0.5
0.5
4
128
>256
MRSA isolates
5-456
5-183
5-163
5-184
5-254
5-30
5-490
5-85
5-104
5-272
5-260
5-283
5-151
5-253
5-333
5-549
5-328
5-522
5-489
5-129
Hexane extract
1,000
1,000
1,000
2,000
2,000
2,000
2,000
2,000
2,000
2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
>2,000
Vancomycin**
0.25
1
0.25
0.5
0.25
0.5
0.5
0.5
0.25
0.5
0.25
0.25
0.25
0.5
4
0.5
0.5
2
2
1
* European Committee on Antimicrobial Susceptibility Testing (EUCAST) define susceptibility as ≤ 0.12 g/ml (EUCAST, 2015)
** European Committee on Antimicrobial Susceptibility Testing (EUCAST) define susceptibility as ≤ 2 μg/ml (EUCAST, 2015)
โคมัยซิน คือ MRSA 5-333 ใหคา MIC เทากับ 4 μg/ml (ตาราง
ที่ 1)
การศึกษาฤทธิ์ของยาเพนิซิลลิน ตอการยับยั้งการ
เจริญของเชื้อ MRSA จํานวน 20 ไอโซเลท โดยใชวิธี agar
dilution โดยใชยาเพนิซิลลิน ที่มีความเขมขน 0.125 – 256
μg/ml โดยเชื้อที่ไวตอยาเพนิซิลลิน ตองมีคา MIC นอยกวาหรือ
เทากับ 0.12 μg/ml (EUCAST, 2015) ผลการวิจัยพบวา เชื้อ
MRSA สวนใหญดื้อตอยาเพนิซิลลิน ใหคา MIC อยูระหวาง
0.25 ถึง >256 μg/ml (ตารางที่ 1)
2. คา MIC ของยาปฏิชีวนะตอการยับยั้งเชื้อ MRSA
การศึกษาฤทธิ์ของยาแวนโคมัยซิน ตอการยับยั้งการ
เจริญของเชื้อ MRSA จํานวน 20 ไอโซเลท โดยใชวิธี agar
dilution โดยใชยาแวนโคมัยซิน ที่มีความเขมขนตั้งแต 0.125 –
256 μg/ml โดยเชื้อที่ไวตอยาแวนมัยซิน ตองมีคา MIC นอย
กวาหรือเทากับ 2 μg/ml (EUCAST, 2015) ผลการวิจัยพบวา
เชื้อ MRSA สวนใหญไวตอยาแวนโคมัยซิน ใหคา MIC อยู
ระหวาง 0.25 – 2 μg/ml โดยมีเพียง 1 ไอโซเลท ที่ดอื้ ตอยาแวน
62
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus aureus
IJPS
Suphim B. et al.
Vol. 12 No. 2 April – June 2016
_______________________________________________________________________________________________
เจริญของเชื้อ MRSA จํานวน 4 ไอโซเลท (คา FICI = 0.5)
ไดแก ไอโซเลท 5-183, 5-254, 5-30 และ 5-104 และไมมีผลตอ
ฤทธิ์ของยาแวนโคมัยซิน ในเชื้อ 6 ไอโซเลท โดยไมพบฤทธิ์
ตานกันระหวางสารสกัดกระชายดําและยาแวนโคมัยซิน (ตาราง
ที่ 2) สวนการทดสอบผลรวมกับยาเพนิซิลลิน พบวาสารสกัด
กระชายดํา สามารถเสริมฤทธิ์ของยาเพนิซลิ ลิน ในเชื้อทั้ง 10 ไอ
โซเลทได (ตารางที่ 3)
3. ฤทธิ์รวมกันของสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซน
กับยาปฏิชีวนะตอการยับยั้งเชื้อ MRSA
การศึกษาฤทธิ์รวมกันของสารสกัดกระชายดําที่สกัด
ดวยเฮกเซน โดยใชวิธี Checkerboard dilution ใชเชื้อทดสอบ
จํานวน 10 ไอโซเลท ทีไ่ วตอสารสกัดเฮกเซน มาทดสอบรวมกับ
ยาปฏิชีวนะ ผลการศึกษาวิจัยพบวา สารสกัดเฮกเซนสามารถ
เสริมฤทธิ์ (synergism) ของยาแวนโคมัยซิน ในการยับยั้งการ
ตารางที่ 2 คา FICI ของยาแวนโคมัยซินเมื่อใหรว มกับสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซนในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA
MRSA strains
5-456
5-183
5-163
5-184
5-254
5-30
5-490
5-85
5-104
5-272
Agents
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Hexane extract
Vancomycin
Alone
1,000
0.25
1,000
1
1,000
0.25
2,000
0.5
2,000
0.25
2,000
0.5
2,000
0.5
2,000
0.5
2,000
0.25
2,000
0.5
MIC (g/ml)
Hexane extract + VAN
500
0.125
250
0.25
500
0.125
1,000
0.25
500
0.0625
500
0.125
1,000
0.25
1,000
0.25
1,000
0.0625
1,000
0.25
FICI ≤ 0.5, synergy; FICI > 0.5 to 4.0, indifference; FICI > 4.0 antagonism (Lorian, 2005)
63
FICI
Outcome
1
Indifference
0.5
Synergy
1
Indifference
1
Indifference
0.5
Synergy
0.5
Indifference
1
Indifference
1
Indifference
0.5
Synergy
1
Indifference
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชวี นะตอการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดอื้ ยาเมธิซลิ ลิน
ว. เภสัชศาสตรอสี าน
ปที่ 12 ฉบับที่ 2 เม.ย. – มิ.ย. 2559
บุญเลี้ยง สุพิมพ และคณะ
_______________________________________________________________________________________________
ตารางที่ 3 คา FICI ของยาเพนิซลิ ลินเมื่อใหรวมกับสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซนในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA
MRSA strains
5-456
5-183
5-163
5-184
5-254
5-30
5-490
5-85
5-104
5-272
Agents
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
Hexane extract
Penicillin
alone
1,000
0.25
1,000
16
1,000
16
2,000
0.25
2,000
0.25
2,000
0.25
2,000
256
2,000
8
2,000
0.25
2,000
0.5
MIC (g/ml)
Hexane extract + PEN
125
0.031
31.25
0.5
15.62
0.25
125
0.156
250
0.031
62.50
0.0039
62.50
8
62.50
0.25
250
0.031
125
0.031
FICI
Outcome
0.249
Synergy
0.0625
Synergy
0.031
Synergy
0.125
Synergy
0.249
Synergy
0.047
Synergy
0.063
Synergy
0.063
Synergy
0.249
Synergy
0.125
Synergy
FICI ≤ 0.5, synergy; FICI > 0.5 to 4.0, indifference; FICI > 4.0 antagonism (Lorian, 2005)
อภิปรายผลและสรุปผลวิจัย
rubrum T. mentagrophytes และ Microsporum gypseum มีคา
MIC 62.5, 125 และ 250 μg/ml ตามลําดับ นอกจากนี้สาร
กลุ ม ฟลาโวนอยด 9 ชนิ ด ที่ ส กั ด ได จ ากกระชายดํ า เมื่ อ นํ า มา
ทดสอบคุ ณ สมบั ติ ใ นการยั บ ยั้ ง เชื้ อ จุ ลิ น ทรี ย พบว า 5,7,4trimethoxyflavone และ 5,7,3,4-tetramethoxyflavone มีฤทธิ์
ยับยั้งการเจริญของเชื้อมาลาเรีย คือ Plasmodium falciparum
โดยใหคา IC50 เทากับ 3.70 μg/ml และ 4.06 μg/ml ตามลําดับ
และ 3, 5, 7, 4-tetramethoxyflavone และ 5, 7, 4-
ผลการทดสอบความไวของสารสกัดกระชายดําที่สกัด
ดวยเฮกเซนในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ MRSA พบวา สาร
สกัดกระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซนสามารถยับยั้งการเจริญของ
เชื้อ MRSA ไดจํานวน 10 ไอโซเลท ใหคา MIC อยูระหวาง
1,000 – 2,000 μg/ml สอดคลองกับการศึกษาของ Kummee
et al. (2008) ไดทดสอบความไวของสารสกัดกระชายดําที่สกัด
ดวยเอทานอลในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย พบวา สารสกัดสามารถ
ยับยั้งเชื้อรากอโรคผิวหนังได 3
สปชีส คือ Trichophyton
64
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus aureus
IJPS
Suphim B. et al.
Vol. 12 No. 2 April – June 2016
_______________________________________________________________________________________________
สารสกัดกระชายดําสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ S. aureus
สายพันธุดื้อยาเมธิซิลิน ได และเมื่อทดสอบรวมกับยาปฏิชีวนะ
ไดแกยาแวนโคมัยซิน และเพนิซินิลิน พบวาสวนใหญมีฤทธิ์
แบบเสริ ม ฤทธิ์ กั น ดั ง นั้ น ผลการศึ ก ษาในครั้ ง นี้ อ าจสามารถ
นํ า ไปสู ก ารพั ฒนากลยุ ทธ ในการนํา สารจากธรรมชาติ ม าใช
รวมกับยาปฏิชีวนะ และควรมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงสารสําคัญที่
มีฤทธิ์ตาน MRSA ในสารสกัดกระชายดําที่ผลิตเปนการคา เพื่อ
ใช เ ป น ข อ มู ล พื้ น ฐานในการนํ า เอาสมุ น ไพรไปพั ฒ นาเป น ยา
ปฏิชวี นะในการรักษาโรคติดเชื้อ MRSA ตอไป
trimethoxyflavone สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ Candida
albicans โดยใหคา IC50 เทากับ 39.71 μg/ml และ 17.63 μg/ml
ตามลําดับ และพบวา 3, 5, 7, 4-tetramethoxyflavone และ 5,
7, 4-trimethoxyflavone ยังมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อ
Mycobacterium ไดเล็กนอย โดยใหคา MIC 200 μg/ml และ 50
μg/ml ตามลําดับ (Yenjai, 2004)
การศึกษาฤทธิ์รวมกันของสารสกัดกระชายดําที่สกัด
ดวยเฮกเซนกับยาแวนมัยซิน และ เพนิซิลลิน พบวาสารสกัด
กระชายดําที่สกัดดวยเฮกเซนใหผลเสริมฤทธิ์ยาแวนโคมัยซิน
ตอการยับยั้งเชื้อ MRSA จํานวน 4 ไอโซเลท และไมมีผลตอ
ฤทธิ์ของยาแวนโคมัยซินในการยับยั้งเชื้อ MRSA จํานวน 6 ไอ
โซเลท โดยสารสกัดกระชายดําที่สกัดดวย เฮกเซนสามารถ
เสริมฤทธิ์ของยาเพนิซิลลิน ตอการยับยั้งเชื้อ MRSA ไดทุกไอ
โซเลท สอดคลองกับการศึกษาฤทธิ์ของเคอรคูมินเปนสารที่สกัด
ไดจากขมิ้น ซึ่งเปนพืชตระกูลขิง (Zingiberaceae) เชนเดียวกับ
กระชายดําในการเสริ มฤทธิ์ ของยาปฏิ ชีวนะต อการยั บยั้ งเชื้ อ
MRSA โดยวิธี broth microdilution และ Checkerboard test
ผลการศึกษาพบวา เคอรคูมินสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ
MRSA ใหคา MIC อยูระหวาง 125 – 250 μg/ml และเมื่อ
ทดสอบฤทธิ์ของเคอรคูมินรวมกับยาปฏิชีวนะ ไดแก ยาออกซา
ซิลิน, แอมพิซิลลิน, ไซโปรฟลอกซาซิน และ นอรฟลอกซาซิน
พบวาเคอรคูมินสามารถลดคา MIC ของยาปฏิชีวนะตอการ
ยับยั้งเชื้อ MRSA ตอยาทั้ง 4 ชนิด (Mun et al., 2013) และ
การศึกษาฤทธิ์รวมกันของสารฟลาโวนอยดที่สกัดจากพืชสวน
ครัว เชน ขา และ กระชาย กับยาอะม็อกซิซิลิน ตอการยับยั้ง
เชื้อ amoxicillin-resistant Escherichia coli (AREC) พบวา คา
MIC ของยาอะม็อกซิซิลิน และสารฟลาโวนอยดที่สกัดจาก ขา
และกระชาย มี ค า อยู ร ะหว า ง 500 ถึ ง >1,000 ไมโครกรั ม ต อ
มิลลิลิตร เมื่อนํามาทดสอบฤทธิ์รวมกัน พบวา สารฟลาโวนอยด
สามารถเสริมฤทธิ์ของยาอะม็อกซิซิลิน ตอการยับยั้งเชื้อ AREC
โ ด ย อ อ ก ฤ ท ธิ์ ทํ า ล า ย โ ค ร ง ส ร า ง เ ยื่ อ หุ ม เ ซ ล ล ข อ ง เ ชื้ อ
(Cytoplasmic membrane) โดยยับยั้งการสราง peptidoglycan
ทําใหเชื้อไมสามารถเจริญได และยับยั้ง ribosome synthesis
นอกจากนี้สารฟลาโวนอยดยังสามารถยับยั้งการสรางเอนไซม
penicillinase ซึ่งเปนเอนไซมที่มีฤทธิ์ทําลายโครงสราง betalactam ของยาปฏิชวี นะได ทําใหเชื้อ AREC ไวตอยาอะม็อกซิซิ
ลินเพิ่มมากขึ้น (Eumkeb et al., 2012)
ก า ร ศึ ก ษา ผ ลข อง สา ร สกั ดก ระ ชายดํ า ต อ ก า ร
ปรับเปลี่ยนความไวของเชื้อ S. aureus ตอยาปฏิชีวนะ พบวา
กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบคุ ณ กองทุ น สนั บ สนุ น การวิ จั ย ของบุ ค ลากร
มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ประจําป 2555 ที่ใหทุนสนับสนุนการ
วิจัยและหนวยจุลชีววิทยาคลินิก โรงพยาบาลศรีนครินทร คณะ
แพทยศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน ใหความอนุเคราะหเชื้อ
methicillin-resistant Staphylococcus aureus เพื่อใชในการทํา
วิจยั ในครั้งนี้
References
Aswapokee N. New Therapeutic Options for Resistant
Gram-Positive Infections Siriraj Scientific
Congress. Siriraj Hospital: 2008.
Barber M, Rozwadowska-Dowzenko M. Infection by
penicillin-resistant staphylococci. Lancet 1948;
2(6530): 641-644.
Chattiranan S, Sabaijai W, Niyomthai S. Phytochemical
Screening and Antioxidant Activity of
Clerodendrum disparifolium Leaves. KKU Sci J
2013; 41(3): 723 - 730.
Climo MW, Patron RL, Archer GL. Combinations of
vancomycin and beta-lactams are synergistic
against staphylococci with reduced susceptibilities
to vancomycin. Antimicrob Agents Chemother
1999; 43(7): 1747-1753.
Clinical and Laboratory Standards Institute. Performance
Standards for Antimicrobial Disk Susceptibility
Tests: Approved standard M2-A10. 10th ed.
Wayne, PA.: Clinical and Laboratory Standards
Institute; 2009.
65
สารสกัดเฮกเซนของกระชายดําเสริมฤทธิ์ของยาปฏิชวี นะตอการยับยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus สายพันธุดอื้ ยาเมธิซลิ ลิน
ว. เภสัชศาสตรอสี าน
ปที่ 12 ฉบับที่ 2 เม.ย. – มิ.ย. 2559
บุญเลี้ยง สุพิมพ และคณะ
_______________________________________________________________________________________________
Mun SH, Joung DK, Kim YS, et al. Synergistic antibacterial
effect of curcumin against methicillin-resistant
Staphylococcus aureus. Phytomedicine 2013;
20(8-9): 714-718.
Panthong A, Tassaneeyakul W, Kanjanapothi D,
Tantiwachwuttikul P, Reutrakul V. Antiinflammatory activity of 5,7-dimethoxyflavone.
Planta Med 1989; 55(2): 133-136.
Plata K, Rosato AE, Wegrzyn G. Staphylococcus aureus
as an infectious agent: overview of biochemistry
and molecular genetics of its pathogenicity. Acta
Biochim Pol 2009; 56(4): 597-612.
Rujjanawate C, Kanjanapothi D, Amornlerdpison D,
Pojanagaroon S. Anti-gastric ulcer effect of
Kaempferia parviflora. J Ethnopharmacol 2005;
102(1): 120-122.
Sae-wong C, Tansakul P, Tewtrakul S. Anti-inflammatory
mechanism of Kaempferia parviflora in murine
macrophage cells (RAW 264.7) and in
experimental animals. J Ethnopharmacol 2009;
124(3): 576-580.
Sawasdee P, Sabphon C, Sitthiwongwanit D, Kokpol U.
Anticholinesterase activity of 7-methoxyflavones
isolated from Kaempferia parviflora. Phytother Res
2009; 23(12): 1792-1794.
Schito GC. The importance of the development of antibiotic
resistance in Staphylococcus aureus. Clin
Microbiol Infect 2006; 12 Suppl 1(3-8.
Sirikhansaeng P, Vichitphan K, Vichitphan S. The flavonoid
content and antibacterial activity of Kaempferia
parviflora Wall. ex Baker in Krachai-Dum herbal
wine. 13th International Biotechnology Symposium
& Exhibition (IBS-2008) Dalian China
Biotechnology for the Sustainnability of Human
Society 2008. p. S746
Siriwong N, Chukeatirote E. Antibiotic resistance in
Staphylococcus aureus and controlling. Songkla
Med J 2009; 27(4): 347 - 358.
Dowrote N. The effects of Kaempferia parviflora and
Hibiscus sabdariffa extracts on arterial blood
pressure and renal functions in rats. [Master of
Science in Physiology.]. Songkla: Prince of
Songkla University; 2010.
EUCAST. European Committee on Antimicrobial
Susceptibility Testing. Routine and extended
internal quality control as recommended by
EUCAST, Version 5.0.http://www.eucast.org.;
2015.
Eumkeb G, Siriwong S, Phitaktim S, Rojtinnakorn N,
Sakdarat S. Synergistic activity and mode of
action of flavonoids isolated from smaller galangal
and amoxicillin combinations against amoxicillinresistant Escherichia coli. J Appl Microbiol 2012;
112(1): 55-64.
Hausler WJ, Herrmann KL, Isenberg HD. Manual of clinical
microbiology. 10th ed. Washington, DC: American
Society for Microbiology; 1991.
Indranupakorn R. Identification, extraction and separation
of active constituents of herb. Bangkok:
chulalongkorn University; 2004.
Kummee S, Tewtrakul S, Subhadhirasakul S. Antimicrobial
activity of the ethanol extract and compounds
from the rhizomes of Kaempferia parviflora.
Songklanakarin J Sci Technol 2008; 30 (4): 463 466.
Kusirisin W, Srichairatanakool S, Lerttrakarnnon P, et al.
Antioxidative activity, polyphenolic content and
anti-glycation effect of some Thai medicinal plants
traditionally used in diabetic patients. Med Chem
2009; 5(2): 139-147.
Lorian V. Antibiotice in laboratory medicine. 5th ed.
Philadephia: Lippincott Williams & Wilkins; 2005.
Medical Technology Laboratory. Direct colony suspension
method (DCS). Thammasat University Hospital;
2008.
66
Synergistic effect of hexane extract of Kaempferia parviflora on antibiotics against methicillin-resistant Staphylococcus aureus
IJPS
Suphim B. et al.
Vol. 12 No. 2 April – June 2016
_______________________________________________________________________________________________
Spoorthi NJ, Vishwanatha T, Reena V, et al. Antibiotic
synergy test: checkerboard method on multidrug
resistant Pseudomonas aeruginosa. International
research journal of pharmacy 2011; 2(12): 196 198.
Tewtrakul S, Subhadhirasakul S. Anti-allergic activity of
some selected plants in the Zingiberaceae family.
J Ethnopharmacol 2007; 109(3): 535-538.
Tewtrakul S, Subhadhirasakul S, Kummee S. Anti-allergic
activity of compounds from Kaempferia parviflora.
J Ethnopharmacol 2008; 116(1): 191-193.
Thathaisong U, Sangnual S. Synergistic Effect of AlphaMangostin and Gentamicin against Methicillinresistant Staphylococcus aureus Isolated from
King Narai Hospital. Burapha Sci J 2011; 16(2): 89
- 96.
Yenjai C, Prasanphen K, Daodee S, Wongpanich V,
Kittakoop P. Bioactive flavonoids from Kaempferia
parviflora. Fitoterapia 2004; 75(1): 89-92.
Yenjai C, Sutthanut K, Sripanidkulchai B, et al. Further
studies of bioactive flavonoids from Kaempferia
parviflora. KKU Sci J 2007; 35(1): 37 - 41.
Ziglam H, Nathwani D. New therapeutic agents for
resistant Gram-positive infections. Expert Rev Anti
Infect Ther 2003; 1(4): 655-665.
67