Location via proxy:   [ UP ]  
[Report a bug]   [Manage cookies]                
ข้ามไปเนื้อหา

จอร์จ เอส. แพตตัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จอร์จ แพตตัน
ภาพถ่ายในปี 1945
ชื่อเล่น"Bandito"
"Old Blood and Guts"
เกิด11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1885(1885-11-11)
รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
เสียชีวิต21 ธันวาคม ค.ศ. 1945(1945-12-21) (60 ปี)
ไฮเดิลแบร์ค ประเทศเยอรมนี
รับใช้สหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกา
แผนก/สังกัดกองทัพบกสหรัฐ
ประจำการ1909–1945
ชั้นยศพลเอก (General)
เลขประจำตัว0-2605
การยุทธ์
ลายมือชื่อ

พลเอก จอร์จ สมิท แพตตันที่ 3 (George Smith Patton III) เป็นนายพลของกองทัพบกสหรัฐ เคยบังคับบัญชากองทัพที่ 7 ในเขตสงครามเมดิเตอร์เรเนียนในสงครามโลกครั้งที่สอง และบังคับบัญชากองทัพที่ 3 ในฝรั่งเศสและเยอรมนีภายหลังกองทัพสัมพันธมิตรบุกขึ้นนอร์ม็องดีเมื่อเดือนมิถุนายน 1944

ประวัติตอนต้น

[แก้]

จอร์จ แพตตัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1885 ที่เมืองซานกาเบรียล รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นทายาทของตระกูลทหารที่มีชื่อเสียง ซึ่งสืบทอดตำแหน่งทางทหารจากรุ่นสู่รุ่น พ่อของเขา จอร์จ สมิธ แพตตัน ซีเนียร์ (George Smith Patton Sr.) เป็นทนายความ และคุณปู่ของเขาเคยเป็นทหารในสงครามกลางเมืองสหรัฐ ทำให้แพตตันได้รับแรงบันดาลใจจากบรรพบุรุษในการเลือกเส้นทางชีวิตเป็นทหารตั้งแต่วัยเยาว์

ในวัยเด็ก แพตตันมีความสนใจในเรื่องราวของนักรบและสงครามเป็นพิเศษ เขาชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ทางทหารและตำนานเกี่ยวกับวีรบุรุษโบราณ อย่างไรก็ตาม แพตตันประสบปัญหาทางการเรียนในช่วงแรก โดยเฉพาะการอ่านและการเขียน ทำให้พ่อแม่ต้องจ้างครูพิเศษมาสอนที่บ้านจนเขามีความสามารถดีขึ้น แม้ว่าแพตตันมีปัญหาในการเรียนรู้ แต่เขาก็เป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้นและรักการผจญภัย เขาเติบโตในฟาร์มขนาดใหญ่ของครอบครัว ทำให้เขาคุ้นเคยกับการขี่ม้าและกิจกรรมกลางแจ้งตั้งแต่ยังเล็ก ความสนใจนี้ส่งผลต่อการเลือกเส้นทางอาชีพในอนาคตของเขา เมื่อเขาตัดสินใจเข้าเรียนที่สถาบันเวสต์พอยต์ ในปี 1904 ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่นำเขาไปสู่การเป็นนายพลผู้มีชื่อเสียงในสงครามโลกครั้งที่สอง

อาชีพทหาร

[แก้]

สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

[แก้]

แพตตันเข้าร่วมกองทัพบกสหรัฐ และได้รับการแต่งตั้งเป็นร้อยตรีในกองทัพม้า ซึ่งในเวลานั้นยังถือเป็นหน่วยสำคัญในการรบ แพตตันเริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ขณะนั้นเขาได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมกองกำลังภายใต้การนำของนายพลจอห์น เพอร์ชิง (John Pershing) ปฏิบัติภารกิจในฝรั่งเศส แพตตันแสดงฝีมือโดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิกการใช้รถถังในการสู้รบ โดยเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับหน่วยรถถังหน่วยแรกของกองทัพสหรัฐ การนำรถถังมาใช้เป็นยุทธวิธีใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการบุกทะลวงและเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว ในการสู้รบที่แนวรบเม็ซ (Meuse-Argonne Offensive) แพตตันได้รับบาดเจ็บ แต่เขาได้รับการยกย่องและได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ

หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แพตตันยังคงพัฒนายุทธวิธีทางทหารโดยเฉพาะการใช้รถถังและยานเกราะ เขาได้เขียนบทความและผลักดันให้กองทัพสหรัฐเห็นความสำคัญของกองกำลังยานเกราะ ซึ่งแนวคิดนี้ทำให้แพตตันได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานเกราะในยุคต่อมา

สงครามโลกครั้งที่สอง

[แก้]
พลตรีแพตตัน ในปี 1941

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แพตตันได้รับมอบหมายให้มีบทบาทสำคัญในการรบหลายครั้ง แพตตันนำทหารสหรัฐเข้าสู่เขตสงครามเมดิเตอร์เรเนียนด้วยการบุกครองกาซาบล็องกาในช่วงปฏิบัติการคบเพลิงในปี 1942 และต่อมานำทัพสหรัฐในการบุกครองนอร์ม็องดี (D-Day) และการบุกครองอิตาลี แพตตันนำกองทัพที่ 7 ในการบุกเกาะซิซิลี และช่วยปลดปล่อยอิตาลีจากการยึดครองของกองทัพเยอรมันได้สำเร็จ ต่อมาเขาได้รับคำสั่งให้เป็นผู้บัญชาการกองทัพที่ 3 ซึ่งภายใต้การนำของเขา กองทัพที่ 3 ได้บุกอย่างรวดเร็วเข้าสู่ยุโรปตอนกลาง ทำให้กองทัพสัมพันธมิตรสามารถปลดปล่อยเมืองต่าง ๆ ในฝรั่งเศสได้อย่างรวดเร็ว

การสู้รบที่โดดเด่นที่สุดของแพตตันคือยุทธการตอกลิ่มในปลายปี 1944 เมื่อกองทัพเยอรมันพยายามโต้กลับอย่างหนัก แพตตันสามารถเคลื่อนทัพไปช่วยเหลือกองพันที่ 101 ที่ถูกปิดล้อมได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะเหนือเยอรมนีในที่สุด ด้วยความสามารถในการวางแผน ยุทธวิธีอันเฉียบแหลม และความมุ่งมั่นในการนำทหาร แพตตันกลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความสำเร็จทางการทหาร แม้เขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการใช้คำพูดที่รุนแรงและมีบุคลิกที่เข้มงวด แต่ความสามารถของเขาในการนำทัพและสร้างขวัญกำลังใจให้กับทหารไม่อาจปฏิเสธ

ยศทหาร

[แก้]
  • มิถุนายน 1909 : ร้อยตรี (Second Lieutenant)
  • พฤษภาคม 1916 : ร้อยโท (First Lieutenant)
  • พฤษภาคม 1917 : ร้อยเอก (Captain)
  • มกราคม 1918 : พันตรี (Major)
  • มีนาคม 1934 : พันโท (Lieutenant Colonel)
  • กรกฎาคม 1938 : พันเอก (Colonel)
  • ตุลาคม 1940 : พลจัตวา (Brigadier General)
  • เมษายน 1941 : พลตรี (Major General)
  • มีนาคม 1943 : พลโท (Lieutenant General)
  • เมษายน 1945 : พลเอก (General)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ George S. Patton