Location via proxy:   [ UP ]  
[Report a bug]   [Manage cookies]                
SlideShare a Scribd company logo
บทเสภาสามัคคีเสวก
ตอน วิศวกรรมาและสามัคคีเสวก
ผู้นาเสนอ
เด็กหญิงนิตยา นามสกุล วงศ์ภักดี
ชั้น ม.๒/๒ เลขที่ ๓๖
เสนอ
อาจารย์บุบผา ชื่นปิติกุล
โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง ๒๕๕๒
คาอธิบายศัพท์
คา

ความหมาย

กัปปิตัน

มาจาก captain ปัจจุบันเขียน กัปตัน

จานง

มุ่งประสงค์

เฉโก

ฉลาดแกมโกง ไม่ตรงไปตรงมา

ช่างเขียน

จิตรกร

ช่างประดิษฐ์รัชดา

ช่างเงิน

ช่างรูปพรรสุวรรณกิจ

ช่างทอง

ช่างสถาปนา

ช่างก่อสร้าง สถาปนิก

ทรงธรรม์

พระเจ้าแผ่นดิน

นรชน

คน
คาอธิบายศัพท์
คา

ความหมาย

นาริน

ผู้หญิง นาง นารี

บรรโลม

ทาให้พึงพอใจ ประโลม

โยเส

โยโส หยิ่งจองหอง

รัตนประกร

ช่างเจียระไนเพ็ชรพลอย ประกร และว่าทาขึ้น ประดิษฐ์ขึ้น

ละวาด

งามอย่างภาพวาด

วิลาส

งามมีเสน่ห์

วิเลขา

งามยิ่ง

ศรีวิไล

civilized ศิลิไลซ์ เจริญ มีอารยธรรม

ศานติ

สันติ สงบ

สาอาง

งามสะอาด หมดจด

เสวก

เส-วก หมายถึงข้าราชการในราชสานัก บางครั้งใช้ เส-วี
บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมมา
๏ อันชาติใดไร้ศานติสุขสงบ

ต้องมัวรบราญรอนหาผ่อนไม่

ณ ชาตินั้นนรชนไม่สนใจ

ในศิลปะวิไลละวาดงาม ๚

๏ แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ

ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม

ย่อมจานงศิลปาสง่างาม

เพื่ออร่ามเรืองระยับประดับประดา ๚

๏ อันชาติใดไร้ช่างชานาญศิลป์

เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า

ใครใครเห็นไม่เป็นที่จาเริญตา

เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย ๚

๏ ศิลปกรรมนาใจให้สร่างโศก

ช่วยบรรเทาทุกข์ในโลกให้เหือดหาย

จาเริญตาพาใจให้สบาย

อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ ๚

๏ แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม

เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร

เพราะขาดเครื่องระงับดับราคาญ

โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ ๚

๏ เพราะการช่างนี้สาคัญอันวิเศษ

ทุกประเทศนานาทั้งน้อยใหญ่

จึงยกย่องศิลปกรรม์นั้นทั่วไป

ศรีวิไลวิลาศดีเป็นศรีเมือง ๚

๏ ใครดูถูกผู้ชานาญในการช่าง

ความคิดขวางเฉไฉไม่เข้าเรื่อง

เหมือนคนบ้าคนไพรไม่รุ่งเรือง

จะพูดด้วยนั้นก็เปลืองซึ่งวาจา ๚
๏ แต่กรุงไทยศรีวิไลทันเพื่อนบ้าน

จึ่งมีช่างชานาญวิเลขา

ทั้งช่างปั้นช่างเขียนเพียรวิชา

อีกช่างสถาปนาถูกทานอง ๚

๏ ทั้งช่างรูปพรรณสุวรรณกิจ

ช่างประดิษฐ์รัชดาสง่าผ่อง

อีกช่างถมลายลักษณะจาลอง

อีกช่าชองเชิงรัตนะประกร ๚

๏ ควรไทยเราช่วยบารุงวิชาช่าง

เครื่องสาอางแบบไทยสโมสร

ช่วยบารุงช่างไทยให้ถาวร

อย่าให้หย่อนกว่าเขาเราจะอาย ๚

๏ อันผองชาติไพรัชช่างจัดสรร

เป็นหลายอย่างต่างพรรณเข้ามาขาย

เราต้องซื้อหลากหลากและมากมาย

ต้องใช้ทรัพย์สุรุ่ยสุร่ายเป็นก่ายกอง ๚

๏ แม้พวกเราชาวไทยตั้งใจช่วย

เอออานวยช่างไทยให้ทาของ

ช่างคงใฝ่ใจผูกถูกทานอง

และทาของงามงามขึ้นตามกาล ๚

๏ เราช่วยช่างเหมือนอย่างช่วยบ้านเมือง

ได้ประเทืองเทศไทยอันไพศาล

สมเป็นเมืองใหญ่โตมโหฬาร

พอไม่อายเพื่อนบ้านจึ่งจะดี ๚
ความหมายของบทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมมา
ชาติใดที่มีศึกสงครามไม่มีความสงบสุขในแผ่นดิน ประชาชนย่อมไม่มีจิตใจ
สนใจความงดงามของศิลปะ แต่หากประเทศใด(ชาติใด) บ้านเมืองสงบสุข
ปราศจากสงคราม ประชาชนก็จะทานุบารุงการศิลปกรรมทั้งปวงให้เจริญรุ่งเรือง
ชาติใดที่ปราศจากช่างศิลป์ ก็เปรียบเสมือนหญิงสาวที่ไม่มีความงามไม่เป็นที่ต้อง
ตาต้องใจของใคร มีแต่จะถูกเยาะเย้ยให้ได้อาย อัน ศิลปกรรมนั้นช่วยทาให้จิตใจ
คลายเศร้า ช่วยทาให้ความทุกข์หมด ทาให้จิตใจของเรามีความสุขซึ่งจะส่งผลให้
ร่างกายแข็งแรงไปด้วย(ทาให้สุขภาพ ใจและกายดี) ตรงกันข้าม หากใครไม่เห็น
คุณค่าความงามของศิลปะ เมื่อเผชิญความทุกข์ก็ไม่มีสิ่งใดมาเป็นยาช่วยรสมาน
บาดแผลของจิตใจ
เขาเหล่านั้นจึงเป็นคนที่น่าสงสารยิ่งนัก เพราะความรู้ทางช่างศิลป์สาคัญ
เช่นนี้ นานาประเทศจึงนิยมยกย่องคุณค่าของศิลปะและความสามารถเชิง
ช่างของช่างศิลป์ ว่าเป็นเกียรติยศ ความรุ่งเรืองของแผ่นดิน คนที่ไม่เห็น
คุณค่าของศิลปะก็เหมือนคนป่าคนดง ป่วยการอธิบาย พูดด้วยก็เปลือง
น้าลายเปล่า แต่ประเทศไทยของเรานั้นเห็นคุณค่าของงานช่างศิลป์ เช่น
ช่างปั้น ช่างเขียน ช่างสถาปัตย์ ช่างทองรูปพรรณ ช่างเงิน ช่างถมและ
ช่างอัญมณี ซึ่งเราควรสนับสนุนงานช่างศิลป์ไทยให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองอย่าให้
ด้อยน้อย หน้ากว่านานาประเทศ ชาวต่างชาติเมื่อมาเยือนเมืองไทยจะได้ซื้อ
หางานศิลปะเหล่านี้กลับไปเพราะเห็นในคุณค่า การช่วยสนับสนุนงาน
ศิลปกรรม และส่งเสริมช่างศิลป์ไทยให้สร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นจึงเท่ากับได้
ช่วยพัฒนา ชาติ ให้เจริญพัฒนาอย่างถาวร
บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน สามัคคีเสวก และความหมาย
ประการหนึ่งพึงคิดในจิตมั่น ว่าทรงธรรม์เหมือนบิดาบังเกิดหัว
ควรเคารพยาเยงและเกรงกลัว ประโยชน์ตัวนึกน้อยหน่อยจะดี
หมาย ถึง สิ่งหนึ่งที่เราควรมีไว้ในจิตใจคือ พระเจ้าแผ่นดินเปรียบเสมือนพ่อบังเกิดเกล้า
ทีเ่ ราควรเกรงใจและเคารพนับถือ เราต้องไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไป
--------------------------------------------------------------------------ควรนึกว่าบรรดาข้าพระบาท ล้วนเป็นราชบริพารพระทรงศรี
เหมือนลูกเรืออยู่ในกลางหว่างวารี จาต้องมีมิตรจิตรสนิทกัน
หมาย ถึง ควรนึกว่าพวกเราก็เป็นข้ารับใช้ของพระเจ้าแผ่นดินคนหนึ่งเหมือนลูกเรือที่อยู่
ในเรือกลางทะเลจาเป็นที่จะต้องมีความสามัคคีต่อกันและกัน
----------------------------------------------------------------------------
แม้ลูกเรือเชื่อถือผู้เป็นนาย
คอยตั้งใจฟังบังคับกัปปิตัน

ต้องมุ่งหมายช่วยแรงโดยแข็งขัน
นาวานั้นจึงจะรอดตลอดทะเล

หมายถึง ถ้าลูกเรือเชื่อฟังกัปตันก็จะต้องช่วยกัปตันอย่างแข็งขัน ต้องตั้งใจฟังคาสั่งของกัปตัน
เรือก็จะรอดไปถึงจุดหมาย
--------------------------------------------------------------------------------

แม้ลูกเรืออวดดีมีทิฐิ
เมื่อคลื่นลมแรงจัดซัดโซเซ

และเริ่มริเฉโกยุ่งโยเส
เรือจะเหล่ระยาคว่าไป

หมายถึง แต่ถ้าลูกเรือไม่เชื่อฟังกัปตันและเริ่มแตกคอกัน เวลาคลื่นลมแรงเรือก็จะโคลงเคลง
ต่อมาเรือก็จะจม
--------------------------------------------------------------------------------
นายจะสั่งสิ่งใดไม่เข้าจิต
จะยุ่งแล้วยุ่งเล่าไม่เข้าทาง

จะต้องติดตันใจให้ขัดขวาง
เรือก็คงอับปางกลางสาคร

หมายถึง กัปตันสั่งอะไรก็ไม่ฟังพอถึงเวลาก็มีข้อขัดแย้งต่อมาก็จะเกิดเหตุการณ์
วุ่นวายขึ้น ในที่สุดเรือก็จะล่มกลางทะเล
----------------------------------------------------------------------ถึงเสวีที่เป็นข้าฝ่าพระบาท
ในพระราชสานักพระภูธร

ไม่ควรขาดความสมัครสโมสร
เหมือนเรือแล่นสาครสมุทรไทย

หมายถึง ถึงจะเป็นข้ารับใช้ของพระเจ้าแผ่นดินก็ไม่ควรขาดความสามัคคี
ปรองดองกัน เหตุการณ์ในพระราชสานักก็เปรียบเสมือนเรือที่แล่นอยู่ตามทะเล
มหาสมุทร
-----------------------------------------------------------------------
เหล่าเสวกตกที่กะลาสี ควรคิดถึงหน้าที่นั้นเป็นใหญ่
รักษาตนเคร่งคงตรงวินัย
สมานใจจงรักพระจักรี
หมาย ถึง เหล่าข้าราชการในราชสานักก็เหมือนเป็นกะลาสีควรให้ความสาคัญกับ
หน้าที่ที่ ต้องทาเป็นหลัก ปฏิบัติตนตามกฏตามระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดและสามัคคี
จงรักภักดีต่อพระ เจ้าแผ่นดิน
------------------------------------------------------------------------ไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชัง สามัคคีเป็นกาลังพลังศรี
ควรปรองดองในหมู่ราชเสวี
ให้สมที่ร่วมพระเจ้าเราองค์เดียว
หมาย ถึง ไม่ควรแยกฝ่ายเลือกที่จะเคารพเชื่อฟังใคร ควรที่จะสามัคคีปรองดองกันใน
หมู่ข้าราชการเพื่อเป็นพลังในการทาความดีให้สม กับที่มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์
เดียวกัน
-------------------------------------------------------------------------
บทเสภาสามัคคีเสวก

More Related Content

บทเสภาสามัคคีเสวก